ประวัติ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ บุรุษแกง ผู้ที่นำเสนอทุกอย่างด้วยความจริง

สำหรับ ประวัติ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นั้นเป็นหนึ่งในเด็กที่เกิดขึ้นที่จังหวัดสกลนครและเติบโตในย่านเยาวราช โดยเป็นบุตรคนสุดท้องในจำนวนพี่น้องทั้งหมด 8 คน ซึ่งมีบิดาและมารดาเป็นคนจีนและทางครอบครัวนั้นทำธุรกิจนำเข้าและผลิตเสื้อผ้ายีนยี่ห้อ Hara อยู่ในปัจจุบันธุรกิจนี้ดูแลโดย เลิศชาย กมลวิศิษฏ์ผู้เป็นพี่ชาย โดยสำหรับตัวเขานั้นได้จบการศึกษาจากโรงเรียนสหพาณิช แล้วมัธยมศึกษาตอนต้นที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชาปริญญาตรีที่คณะพาณิชยศาสตร์ และการบัญชีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แล้วเคยเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยซานดิเอโก้แต่ไม่สำเร็จ เวลาจัดการเข้าสู่วงการการเมืองตั้งแต่ พ.ศ. 2548 โดยเขานั้นโดนศาลรัฐธรรมนูญปลดออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพราะว่าสังกัดพรรคชาติไทยไม่ถึง 90 วัน จึงมาศึกษาต่อในหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิตสาขาการเมืองการปกครองมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และสำเร็จการศึกษาเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิตเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2551

โดยหลังจากจบการศึกษาจากสหรัฐอเมริกาทางด้านตัวของชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ก็หันกลับมาทำธุรกิจของตัวเอง เช่นสร้างหมู่บ้านจัดสรร และเปิดอาบอบนวดชื่อดังชื่อ Victoria Secret และทำการขยายกิจการจนเป็นเจ้าของอาบอบนวด 6 แห่งในเครือ David Group โดยต่อมาก็ได้มีความขัดแย้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาเปิดเผยเรื่องจนได้รับฉายาว่าเสี่ยอ่างหรือจอมแฉจนกระทบธุรกิจอาบอบนวด ถูกดำเนินคดีค้าประเวณีเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปีในสถานอาบอบนวด แต่แล้วก็ถูกยกฟ้องเพราะหลักฐานไม่เพียงพอ

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นั้นเป็นที่รู้จักอย่างโด่งดังกลางปี พ.ศ. 2546 โดยปรากฏเป็นข่าวว่าที่หายตัวไปอย่างลึกลับในขณะที่มีคดีหรือบาร์เบียร์ที่ถนนสุขุมวิท ซึ่งมีคดีที่มีคู่ความเป็นตำรวจนครบาลไม่กี่วัน ต่อมาก็ได้ปรากฏตัวข้างถนนย่านชานเมืองแห่งหนึ่งในสภาพอิดโรย โดยมีการนำส่งโรงพยาบาลเมื่อร่างกายเริ่มฟื้นฟูแล้วได้แฉว่ามีตำรวจกลุ่มหนึ่งอุ้มตัวไป โดยหลังจากนั้นก็มีการปรากฏตัวออกเป็นระยะเมื่อเจ้าตัวเริ่มทำการเขียนถึงพฤติกรรมทุจริตต่างๆ ของวงการตำรวจที่ดูไม่เป็นธรรม ไม่ว่าจะเป็นการรีดไถรับส่วยตลอดจนถึงปัจจุบันก็ยังมีการแฉอยู่เรื่อยๆ ทำให้ทุกคนได้ติดตามข่าวจากข่าวไม่ว่าจะเป็นการแฉทุนจีนสีเทา และคดีต่างๆ ที่ยังเป็นกระแสอยู่ในตอนนี้ ซึ่งเขาคนนี้นั้นถูกจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในชายหนุ่มจึงไม่ธรรมดา และทุกเรื่องที่เขาพูดออกมานั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องติดตาม

แม้ว่าล่าสุด ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ป่วย ได้ออกมาเปิดใจถึงประชาชนผ่านสื่อต่างๆ ถึงสภาพร่างกายและการป่วยโรคร้ายแรงของตนว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และคงมีชีวิคอยู่ต่อไปได้ 8 เดือนเท่านั้น ก็ทำเอาสั่นสะเทือนไปทั่งประเทศ ประชาชนต่างให้กำลังใจกันอย่างล้นหลาม

ช่องทางการติดตาม ประวัติ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์

Facebook : ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์