รีวิว move to heaven ซีรีส์เกาหลีชวนเช็ดน้ำตาความเศร้าของการเดินทาง

“move to heaven” ผลงานออริจินอลคอนเทนต์เรื่องใหม่จากค่าย Netflix ซึ่งหลายต่อหลายคนยกให้เป็นหนึ่งในซีรีส์แห่งปีเลยทีเดียว อีกผลงานการแสดงครั้งสำคัญของพระเอกซูเปอร์สตาร์ อย่าง “อีแจฮุน” เสริมทัพด้วยนักแสดงดาวรุ่งอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “แทง จุนซัง” และ “ฮง ซึงฮี” รวมไปถึง “อี แจอุค” จากฝีมือการสร้างสรรค์ของ “คิมซองโฮ” ร่วมมือกับ “ยุนจีรยอน” รวมทั้งหมดจำนวน 10 ตอนเท่านั้น แน่นอนว่ากระแสตอบรับออกมาในทิศทางที่ดี บรรดาเหล่านักวิจารณ์ทั้งหลายเทคะแนนให้เต็มๆ ดังนั้นจึงแทบไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมซีรีส์ถึงประสบความสำเร็จมากขนาดนี้

สำหรับซีรีส์ “move to heaven” เป็นเรื่องราวของ “ฮันกือรู” วัยรุ่นสมองอัจฉริยะ ซึ่งมีอาการบกพร่องเป็นแอสเปอเกอร์ เขาทำงานร่วมกับคุณพ่ออยู่ที่บริษัท Move to Heaven ธุรกิจครอบครัวเล็กๆ ที่พ่อของเขาทิ้งเอาไว้ก่อนตาย โดยลักษณะงานจะเป็นการเก็บทำความสะอาดห้องของผู้ตาย ไม่เพียงแต่เก็บรวบรวมข้าวของเท่านั้น แต่ช่วยเก็บความทรงจำต่างๆ อีกด้วย เพื่อสานต่อความต้องการสุดท้ายของผู้ตายจนกว่าจะสำเร็จลุล่วง ขณะเดียวกันหลังจากพ่อของ “ฮันกือรู” เสียชีวิตแล้ว ทางด้านของ “โจซังกู” อาแท้ๆ ของเขา ที่เพิ่งออกมาจากคุก ต้องมารับหน้าที่เป็นผู้อภิบาลตามการมอบหมายของคุณพ่อ เหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวายต่างๆ จึงตามมาอีกมากมาย

หากเพื่อนๆ คนไหน อยากรับชมซีรีส์แนวซาบซึ้งกินใจ ไม่ควรพลาดซีรีส์เรื่องดังกล่าวเป็นอันขาด จากประสบการณ์ในการรับชมที่ผ่านมา ส่วนตัวมองว่านักแสดงแต่ละคนสามารถสวมบทบาทเป็นตัวละครได้อย่างสมจริง โดยเฉพาะตัวละครหลัก อย่าง “ฮันกือรู” เจ้าตัวต้องสวมบทบาทเป็นผู้ป่วยอาการแอสเปอเกอร์ ซึ่งบุคลิกท่าทางแตกต่างออกไปจากเด็กหนุ่มทั่วไป แถมยังต้องแสดงความอัจฉริยะให้ทุกคนเห็นอีกด้วย จึงนับว่าเป็นบทท้าทายความสามารถสุดๆ ขณะที่บท “โจซังกู” มีความสำคัญมากไม่แพ้กัน ซึ่งทางด้านของนักแสดงชื่อดัง อย่าง “อีแจฮุน” ต้องมารับบทเป็นคนที่เพิ่งออกจากคุก บุคลิกออกแนวเถื่อนๆ แต่อันที่จริงแล้วเขาเป็นคนที่มีจิตใจอ่อนโยน คอยดูแล “ฮันกือรู” อยู่ไม่ห่างจากตัว

ซีรีส์เกาหลี “move to heaven” บอกเล่าเรื่องราวอันซาบซึ้งผ่านเหตุการณ์ต่างๆ โดยตัวละครหลัก อย่าง “ฮันกือรู” และ “โจซังกู” ต้องออกเดินทางไปทำงานอยู่เป็นประจำ เก็บทำความสะอาดห้องพักของผู้ตาย ซึ่งแต่ละ EP. จะเล่าความทรงจำของผู้ตาย รวมถึงสิ่งที่ผู้ตายอยากพูดออกมา แต่แน่นอนว่าไม่มีความเป็นไปได้แล้ว ทางด้านของ “ฮันกือรู” จึงพยายามช่วยพวกเขาทุกวิถีทาง ทำเอาบรรดาเหล่าผู้ชมซาบซึ้งน้ำตารินไปตามกัน ส่วนตัวยกให้ “move to heaven” เป็นอีกซีรีส์ในดวงใจด้วยเช่นกัน เอาไปเลยทั้งหมด 10/10 คะแนน