ทำความรู้จัก ยาคุมเมโลเดีย พร้อมรีวิว ยาดี ราคาไม่แรง

บทความนี้อยากพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “ยาคุมเมโลเดีย” ยาคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม มาพร้อมกับประสิทธิภาพอันน่าสนใจ ออกฤทธิ์สำหรับการคุมกำเนิด แต่ผลข้างเคียงน้อยกว่ายาชนิดอื่นๆ ไม่ก่อให้เกิดอาการบวม หรืออ้วนตามมา ยิ่งหากผู้หญิงคนไหนเป็นสิวค่อนข้างเยอะ ยาชนิดดังกล่าวยังช่วยให้อาการของสิวบนใบหน้าดีขึ้นตามลำดับอีกด้วย นอกเหนือจากที่กล่าวมายาตัวนี้ช่วยให้ความมันบนผิวและเส้นผมลดน้อยลงกว่าเดิม ผู้หญิงที่มีอาการต่างๆ ก่อนประจำเดือนมา ไม่ว่าจะเป็น หงุดหงิดง่าย ปวดท้องเมนส์ หิวอาหารบ่อย ทราบมาว่า “ยาคุมเมโลเดีย” มีส่วนช่วยให้อาการดีขึ้นเช่นเดียวกัน

  • ยาคุมกำเนิดแบรนด์ : Melodia
  • ราคาวางจำหน่าย : 285 บาทห
  • หากใครกำลังมองหายาคุมกำเนิดประสิทธิภาพดีเยี่ยมในราคามิตรภาพ ไม่อยากให้ทุกคนมองข้าม “ยาคุมเมโลเดีย” เลยแม้แต่น้อย เนื่องจากยาคุมกำเนิดจากแบรนด์ดังกล่าวถือว่ามีคุณภาพสูงมาก ได้รับการยอมรับอย่างเป็นวงกว้าง และวางจำหน่ายด้วยราคาไม่แรงจนเกินไป ทำให้คนส่วนใหญ่มักจะเลือกซื้ออยู่เป็นประจำ โดยปัจจุบัน “ยาคุมเมโลเดีย” วางจำหน่ายด้วยราคาประมาณ 285 บาท บรรจุจำนวน 21 เม็ด ประกอบไปด้วยตัวยา Drospirenone 3 mg และ Ethinylestradiol 0.03 mg โดยผ่านการรับรองมาตรฐานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ความรู้สึกส่วนตัวหลังจากทาน “ยาคุมเมโลเดีย” มีความมั่นใจว่าตัวยามีประสิทธิภาพตามโฆษณาจริง ช่วงที่ผ่านมาเคยทานยาคุมกำเนิดของแบรนด์อื่นๆ มาบ้าง แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน แต่ตัวยาดังกล่าวกลับมีอาการข้างเคียงน้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด แถมขจัดปัญหากวนใจต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ปัญหาสิวบนใบหน้า ปัญหาอารมณ์หงุดหงิดง่าย หรือแม้กระทั่งอาการปวดท้องเมนส์ก็ตาม จากเดิมเคยปวดท้องมากๆ ช่วงเป็นประจำเดือน แต่หลังจากเริ่มต้นทานยาของแบรนด์นี้ อาการปวดท้องเมนส์ลดลงเยอะมาก กระทั่งตอนนี้ขาด “ยาคุมเมโลเดีย” ไม่ได้เป็นอันขาด ดังนั้นจึงขอยอมรับเลยว่าประสิทธิภาพยอดเยี่ยมกว่าหลายแบรนด์ภายในท้องตลาดจริงๆ

ส่วนวิธีการทาน “ยาคุมเมโลเดีย” ถือว่าไม่ค่อยมีความซับซ้อน เพียงแต่ต้องหมั่นทานยาตามฉลากอย่างครบถ้วน หลังจากทานยาเม็ดสุดท้ายหมดแผงเรียบร้อยแล้ว ให้นับจำนวนวันไปอีก 7 วัน เมื่อครบตามจำนวนแล้วเริ่มต้นทานแผงใหม่ทันที แม้ว่าอาการประจำเดือนจะยังไม่หายก็ตาม โดยหากวันไหนลืมทานยาคุมกำเนิด หรือไม่มีความสะดวกในการทานยา วันถัดมาต้องทานยาจำนวน 2 เม็ดพร้อมกัน เพื่อให้ยาสามารถออกฤทธิ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามหากใช้มาแล้วเกิดอาการข้างเคียงรุนแรง แนะนำว่าควรหยุดทานยาในทุกกรณี และรีบปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างเร่งด่วน เพื่อทำการตรวจหาสาเหตุของอาการข้างเคียงอย่างละเอียดอีกครั้ง