เกลือหิมาลัย (Himalayan Salt) เกลือธรรมชาติเพื่อคนรักสุขภาพ
เกลือที่มีสีชมพู เรียกว่า เกลือหิมาลัย หรือ เกลือหิมาลายัน ที่มีแหล่งต้นกำเนิดจากเทือกเขาหิมาลัยในประเทศปากีสถาน ซึ่งกว่าจะได้มานั้นต้องผ่านการระเหย และตกผลึกของน้ำทะเลในสมัยโบราณเมื่อหลายล้านปีก่อน จนกลายเป็นผลึกเกลือสีชมพู
เกลือหิมาลายัน ไม่มีการเติมสารเคมีหรือสารปรุงแต่งใดๆ เป็นธรรมชาติและมีแร่ธาตุ ด้วยความพิเศษนี้เอง จึงเป็นเกลือที่พิเศษกว่ากว่าเกลือชนิดอื่น และมีรสชาติเค็มออกหวานนิดๆ เหมาะสำหรับในกลุ่มคนที่รักสุขภาพที่มีการรับประทานอาหารที่ไม่ค่อยปรุงแต่งรสชาติ
ประโยชน์ที่จะได้รับจากเกลือหิมาลายัน
- ช่วยควบคุมความสมดุลของของเหลวในร่างกาย และรักษาความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติ
- รักษาสมดุลของความเป็นกรด – เบสในเซลล์ โดยเฉพาะเซลล์สมอง
- ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
- ช่วยในการดูดซึมสารอาหารจากอาหาร
- เสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก
- ช่วยให้สมอง กล้ามเนื้อ และระบบประสาททำงานได้ดีขึ้น
- ช่วยให้ระบบทางเดินหายใจ โดยการสูดไอเกลือ
- ช่วยควบคุมความดันโลหิต ให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น
- ใช้ปรุงอาหารหรือผสมในเครื่องดื่มต่าง ๆ เพื่อเพิ่มแร่ธาตุและความสดชื่นให้แก่ร่างกาย
นอกจากนำมาบริโภคแล้ว ยังนำมาทำทำสปา นวดสครับ ทำให้ผิวสวยใสขึ้นได้อีกด้วย ใช้แปรงฟัน และบ้วนปากป้องกันโรคเหงือกได้
ถึงแม้ประโยชน์บางข้อจะยังไม่มีผลการศึกษาวิจัยมารับรอง ไม่มีงานวิจัยที่ศึกษาเปรียบเทียบประโยชน์ของเกลือแกงและเกลือชมพูที่เพียงพอ แต่ยังไงในปัจจุบันนี้ เกลือหิมาลัยก็ได้รับความนิยมแพร่หลายขึ้น
สิ่งที่ต้องจำเป็นต้องระมัดระวัง ในการบริโภคเกลือหิมาลัย
เกลือก็คือ โซเดียม หากได้รับมากเกินไปก็เป็นโทษ
โซเดียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ต้องการไม่มากแต่ขาดไม่ได้ ตามคำแนะนำกรมอนามัยโลก แหล่งของโซเดียม ใน 1 วัน ตามคำแนะนำ คือ ไม่ควรเกิน 2,000 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งเทียบเท่ากับเกลือป่นประมาณ 1 ช้อนชาต่อวัน ซึ่งถ้าหากบริโภคในปริมาณที่มาก มีผลทำให้ไตทำงานหนัก หัวใจทำงานหนักมากขึ้น ใครที่มีภาวะความดันโลหิตสูง จะทำให้ควบคุมความดันโลหิตได้ยากขึ้นอีกด้วย
บริโภคเกลือหิมาลัย อาจ ได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอ
ในแต่ละวันร่างกายต้องการไอโอดีนเพียงเล็กน้อย แต่ก็ขาดไม่ได้ ไอโอดีนเป็นแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ เพื่อให้อวัยวะส่วนต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ เกลือหิมาลัยนั้นมีปริมาณไอโอดีนน้อยกว่าเกลือป่นที่บริโภคกันทั่วไป ผู้ที่หันมาบริโภคเกลือหิมาลัยจึงอาจได้รับไอโอดีนไม่เพียงพอที่ร่างกายต้องการ และควรเสริมไอโอดีนด้วยการกินอาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย สาหร่าย รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากนม เพื่อป้องกันการขาดสารไอโอดีน และยังสามารถเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมไอโอดีน เช่น น้ำปลา ซอส ซีอิ๊ว เป็นต้น
ประโยชน์ของ เกลือหิมาลัย
เกลือหิมาลายันดีกว่าเกลือชนิดอื่นๆ