ทำความเข้าใจกับ ขนาดถุงยาง ที่ผู้ชายควรต้องรู้
ไม่ว่าจะชายหรือหญิงโปรดทำความเข้าใจกับขนาดถุงยางที่ถูกต้องวันนี้ สาระนัว ขอนำเสนอประเด็นที่ไม่ว่าจะชายหรือหญิงควรทำควรเข้าใจในเรื่องของ ขนาดถุงยาง หลายคนสงสัยวิธีการเลือกถุงยางอนามัยที่ถูกต้องกับขนาดของน้องชาย ก่อนที่จะลงลึกขอประชาสัมพันธ์ปัจจุบันประเทศไทยบ้านเรามีถุงยางอนามัยกับเจลหล่อลื่นแจกฟรีที่ศูนย์บริการสาธารณสุขหรือตามคลินิกนิรนามก็มีแจกแล้ว อยากให้ทุกคนมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัยกัน
ถุงยางอนามัยคือไอเท็มที่ต้องมีติดการะเป๋าไว้เพื่อความอุ่นใจ แล้วขนาดถุงยางแบบไหนล่ะที่เหมาะสมกับเราหากพูดถึงขนาดถุงยางที่คู่ควรกับน้องชายแล้วละก็ มันมีวิธีการคำนวณง่ายๆ ทำยังไงก็ได้ให้น้องชายคุณตื่นตัวดื้อรั้นให้เต็มที่จากนั้นให้วัดความยาวเส้นรอบวงที่ได้มาหารด้วย 2 ก็จะได้ขนาดถุงยางอนามัยแล้ว ย้ำกันอีกสักครั้งก่อนที่จะวัดขนาดถุงยางควรให้อวัยวะเพศแข็งตัวซะก่อนนะจ๊ะ ยกตัวอย่างเช่น หากวัดมาได้ 104 หารด้วย 2 = 52 มม. ขนาดถุงยางอนามัยที่เหมาะกับเราคือ 52 มม. นั่นเอง ง่ายมากๆ
ถ้าพูดถึงขนาดเราใหญ่แค่ไหน?
มาตรฐานความใหญ่ของชายไทยโดยส่วนมากมีอยู่ 2 ขนาด คือ 49 มม. และ 52 มม. หรือหากใครมีขนาดที่ใหญ่เกินมาตรฐานชายไทยก็เป็นขนาด 56 มม. คุณผู้ชายที่มีขนาดใหญ่มากๆ ไม่ต้องกังวลเพราะดูเร็กซ์ แบรนด์ถุงยางอนามัยที่โด่งดังระดับโลกผลิตออกมาหลายไซส์หลายขนาดมากมีตั้งแต่ 49, 52, 54, 56 เป็นต้น
ขนาดถุงยาง (มม.) รอบรับขนาดความใหญ่ของรอบวง (ซม.) ขนาดความใหญ่ของรอบวง (นิ้ว)
49 มม. สำหรับรอบวง 11-12 ซม. หรือใหญ่ประมาณ 4.5 นิ้ว
52 มม. สำหรับรอบวง 12-13 ซม. หรือใหญ่ประมาณ 5.0 นิ้ว
54 มม. สำหรับรอบวง 13-14 ซม. หรือใหญ่ประมาณ 5.5 นิ้ว
56 มม. สำหรับรอบวง 14-15 ซม. หรือใหญ่ประมาณ 6.0 นิ้ว ขึ้นไป
ฉะนั้นการเลือกขนาดถุงยางที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก โดยปกติแล้วถุงยางอนามัยมีให้เลือกถึง 13 ไซส์ ตั้งแต่ 44-56 มิลลิเมตร แต่ในบ้านเราจะพบเพียงแค่สามไซส์เท่านั้น ได้แก่ 49 มิลลิเมตร 52 มิลลิเมตร และ 56 มิลลิเมตร
ข้อควรรู้เกี่ยวกับถุงยางอนามัย
- ก่อนให้จำเป็นอย่างมากที่ต้องตรวจดูวันหมดอายุของถุงยางอนามัยด้วย หากหมดอายุแล้วไม่ควรนำมาใช้
- บีบไล่ลมไล่อากาศที่ปลายถุงยางอนามัยก่อนสวมใส่ทุกครั้ง
- สวมใส่ในขณะที่อวัยวะเพศแข็งตัว
- อย่าใส่ถุงยางอนามัยซ้อนกัน 2 ชั้น เพราะจะทำให้ถุงยางแตกได้ อย่าหาทำ!
- ถุงยางอนามัยใช้ได้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ใช้ซ้ำนำกลับมาใช้ใหม่ไม่ได้นะคะ
- เก็บรักษาถุงยางอนามัยในที่เย็นและแห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ถุงยางอนามัยเสื่อมสภาพ
- การมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน นอกจากจะไม่ปลอดภัย แล้ว ยังเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์ไม่พอแค่นั้นแถมยังเสี่ยงเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย ยกตัวอย่างให้เห็นภาพ เช่น HIV (Human Immunodeficiency Virus), หนองในเทียม, หนองในแท้, โรคหงอนไก่, ซิฟิลิส, โรคติดเชื้อทริโคโมนาส, เริม เป็นต้น หากจะเป็นเพศสัมพันธ์ควรสวมใส่ถุงยางอนามัยทุกครั้งเตือนแล้วนะ
