ชินจัง บุกแดนคาวบอย รีวิวการ์ตูนเดอะมูฟวี่สุดฮิตในตำนาน
ชินจัง บุกแดนคาวบอย เวอร์ชันภาพยนตร์เดอะมูฟวี่ มีจุดเด่นอย่างหนึ่งที่ชัดเจนมาก นั่นก็คือ ธีมของภาพยนตร์มันแทบจะไม่ซ้ำกันเลย ผู้สร้างพยายามจะฉีกแนวของชินจังให้แตกต่างออกไปในทุกภาค ดีบ้าง แย่บ้าง สลับกันไป (แต่ส่วนใหญ่จะดี) อีกหนึ่งภาคที่เราไม่คิดว่าจะถูกจับมารวมกับชินจังได้ก็คือภาคบุกแดนคาวบอยนี่แหละ มาดูรีวิวกัน
ข้อมูลเบื้องต้นภาคนี้ชื่อภาษาอังกฤษก็คือ Crayon Shin-chan:Fierceness That Invites Storm! The Kasukabe Boys of the Evening Sun ออกฉายเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2004 เมื่อประมาณ 19 ปีที่แล้ว หนังมีความยาวประมาณ 94 นาที
เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นเมื่อครอบครัวโนฮาร่า เดินทางไปเที่ยวโรงถ่ายหนังแห่งหนึ่งเกี่ยวกับภาพยนตร์ตะวันตก จากนั้นด้วยเหตุบางอย่างทำให้ครอบครัวโนฮาร่าได้ย้อนเวลาไปในยุคคาวบอย ไม่เท่านั้นพวกเค้าได้เข้าไปเกี่ยวพันเรื่องราววุ่นวายในยุคนั้น มีเรื่องของเวลามาเร่งด้วย หากพวกเค้าช้าก็จะทำให้ความทรงจำปัจจุบันเลือนหายไปด้วย ทำให้ครอบครัวโนฮาร่าต้องหาทางหยุดปัญหาทุกอย่าง หาทางกลับบ้านให้เร็วที่สุดก่อนที่ความทรงจำจะหายไป
ตัวละครที่ไม่ใช่ตัวหลักจากครอบครัวโนฮาร่า ก็จะมีดังนี้ Camellia ตัวละครหญิงตัวหลักของภาคนี้ ตามเนื้อหาคาดว่าเนื้อหาอายุประมาณ 14 ปี , Mike ชายหนุ่มร่างท้วม ที่ได้หลุดเข้าไปในโลกตะวันตกพร้อมกับพวกชินโนะสุเกะ Okegawa ชายแก่ที่มักจะขี่ม้าทุกวัน Love Justice ตัวร้ายของเรื่องนี้ ชายหนุ่มวัยกลางคนที่มาแนวตัวร้ายคาวบอยตะวันตกของจริง ทั้งสวมหมวก เก่งกาจเชิงปืน
รีวิวและคำวิจารณ์ ชินจัง บุกแดนคาวบอย
อย่างแรกที่ต้องชื่นชม Shin-chan ในภาคนี้การจับธีมคาวบอยเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน แม้จะดูเป็นเรื่องไกลกัน แต่จุดเกิดเหตุดูสมเหตุสมผลพอสมควร มาที่พล็อตกันบ้าง เราว่าก็มาตามสูตรสำเร็จของเรื่องชินจัง แต่มีรายละเอียดเรื่องของธีมคาวบอยมาจับเท่านั้นเอง ส่วนตัวชอบคาแรกเตอร์ดีไซน์ ชุดที่ใส่เปลี่ยนไปแล้วดูเข้ากันดีทุกตัวละคร มีแต่ชินจังที่ไม่เปลี่ยนชุดตามธีมของเรื่องนี้ (เข้าใจว่าต้องการคงเอกลักษณ์เอาไว้) ชอบพ่อแม่ของชินจังที่เปลี่ยนชุดให้เข้ากับธีม แล้วให้ความรู้สึกว่า ตัวละครนี้ดูมีมิติดี ไม่เหมือนเดิม รวมถึงเพื่อนของชินจังที่เปลี่ยนชุดด้วย
อีกจุดที่แอบขัดใจหน่อย ก็คงเป็นตัวร้ายของเรื่องที่น่าจะเป็นมนุษย์ด้วยกันจะสมเหตุสมผล น่ามองมากกว่า ตัวร้ายที่มาเป็นหุ่นยนต์ (อีกแล้ว) มันก็เลยดูไม่ว้าวเท่าไร ถ้าได้ดวลปืนกันกับตัวร้ายในตอนจบคงลุ้นแอคชั่นได้สนุกกว่านี้ อีกจุดหนึ่งที่อาจจะติดใจผู้ปกครอง คงเป็นเรื่องของความรุนแรงในเรื่อง ภาคนี้มาด้วยธีมคาวบอยตะวันตกต้องมีปืนอยู่แน่นอน ซึ่งก็จริง ตัวละครแทบจะถือปืนกันทุกคนยกเว้นตัวละครหลัก กับครอบครัวโอฮาร่าที่ไม่ได้ถือปืนติดมือ ทีนี้ผู้ปกครองหลายคนอาจจะไม่ชอบการให้เด็กมาอยู่ในสถานการณ์ยิงกันเปรี้ยงปร้าง เพราะมองว่ารุนแรง แต่หากดูตลอดทั้งเรื่องฉากเหล่านี้ของภาพยนตร์ชินจัง ไม่ได้รุนแรงขนาดนั้น เด็กก็ดูได้อยู่
องค์ประกอบอื่นที่เหลือ ก็ต้องยอมรับว่าดีทีเดียวส่วนตัวชอบเรื่อง เพลงประกอบมาก มาจากธีมตะวันตกคาวบอยก็เลยต้องทำให้เพลงออกไปทางธีมนั้นด้วย ผลที่ได้เพลงชินจังภาคนี้ฉีกออกไปจากภาคอื่นชัดเจน คนฟังตอนแรกแม้จะไม่คุ้นหู แต่กลับติดหูดีเหมือนกัน สรุป เป็นการฉีกธีมแบบยอดเยี่ยมของทีมงานผู้สร้าง น่าหามาดูอีกเรื่องหนึ่งของจักรวาลชินจัง เดอะมูฟวี่
>> ชินจัง เดอะมูฟวี่ รีวิวการ์ตูน ตอน รุกมาเยือน! มนุษย์ต่างดาวชิริริ
ติดตามข่าวใหม่ >> ข่าวสุดปัง